วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ทดสอบส่งงานครั้งที่ 1 ที่นี่

วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

อ่านหน่อยนะค่ะ
1. ลดคอเลสเตอรอล และ ไตรกรีเซอร์ไรด์สารแกมม่า-ออไรซานอล ทำหน้าที่เพิ่มระดับไขมันชนิดดี (HDL) ให้แก่ร่างกาย ซึ่งไขมันชนิดนี้จะไปช่วยขจัดคอเลสเตอรอล (LDL) รวมทั้งไตรกรีเซอร์ไรด์ (Triglycerides) จากหลอดเลือดและส่วนต่างๆ ของร่างกาย นอกจากนั้น น้ำมันจมูกข้าวรำข้าว ยังประกอบด้วยวิตามินอีกลุ่มโทโคโตรอินอล ไฟโตสเตอรอล และกรดไขมันโอเมก้า 3-6-9 ซึ่งมีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอล และ ไตรกรีเซอร์ไรด์ ได้ด้วย
2. ป้องกันโรคหัวใจและโรคที่เกิดจากหลอดเลือดตีบตันโรคหัวใจ โรคสมองเสื่อม โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคชาตามประสาทส่วนปลาย รวมทั้งโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ล้วนมีสาเหตุมาจากการที่หลอดเลือดอุดตัน ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่ายกายไม่ทั่วถึง จึงเป็นเหตุให้เกิดโรคดังกล่าว สารอาหารต่างๆ ในน้ำมันจมูกข้าวรำข้าว ช่วยขจัดไขมันในหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดสะอาด ปลอดโปร่งอยู่เสมอ เลือดสูบฉีดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้ทั่วร่างกาย โรคร้ายดังกล่าวข้างต้นก็ไม่เกิดขึ้น
3. บำรุงสมอง บำรุงระบบประสาทกรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยบำรุงสมอง บำรุงเซลล์ในระบบประสาท ทำให้สมองดีอยู่เสมอ เด็กที่รับประทานน้ำมันจมูกข้าวรำข้าว จึงมีความจำดี ส่วนผู้สูงวัยหากได้รับประทานน้ำมันจมูกข้าวรำข้าว อยู่เสมอ ก็จะปลอดภัยจากโรคสมองเสื่อม ขณะที่โอเมก้า 6 และวิตามินบีคอมเพล็กซ์ เป็นส่วนประกอบของเซลล์ผิวหนัง และ เซลล์ในอวัยวะสืบพันธุ์ ช่วยให้ผิวหนังและระบบสืบพันธุ์ดีขึ้น
4. ป้องกันโรคมะเร็งโรคร้ายที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกอย่างไม่มีที่มาที่ไปในศตวรรษที่ผ่านมาและศตวรรษนี้ คือโรคมะเร็ง แต่น่ายินดีที่ผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ พบว่า หากได้รับสารอาหารที่มีอยู่ในน้ำมันจมูกข้าวรำข้าว เข้มข้นถึง 5% ของกระแสเลือดในร่างกาย จะช่วยให้รอดพ้นจากการเป็นโรคมะเร็ง แม้ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งแล้ว ก็ช่วยได้ถึง 62% เนื่องจากในน้ำมันจมูกข้าวรำข้าว มีสารอาหารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก ว่ากันว่า สารต้านอนุมูลอิสระในน้ำมันจมูกข้าวรำข้าว มีมากกว่าในพืชทุกชนิดเท่าที่มีการค้นพบในเวลานี้
5. บำรุงผิวพรรณให้ผ่องใส และ ชะลอความแก่น้ำมันจมูกข้าวรำข้าว มีวิตามินอีจำนวนมาก รวมทั้งวิตามินบีคอมเพล็กซ์ โอเมก้า 6 และเซลาไมซ์(Ceramide) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกแล้วว่า สารอาหารดังกล่าว มีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณให้เต่งตึง เปล่งปลั่ง ผ่องใสมีน้ำมีนวลอยู่เสมอ ทำให้แก่ช้า หรือ ชะลอความแก่ ที่มีรอยเหี่ยวย่นเกิดขึ้นแล้ว ก็ทำให้ริ้วรอยเหี่ยวย่นหายไป
6. ควบคุมความสมดุลของระดับฮอร์โมนในร่างกายร่างกายคนเราจะผลิตฮอร์โมนชนิดต่างๆ ออกมาเสมอ เพื่อให้การทำงานของอวัยวะต่างๆ ดำเนินไปได้อย่างปกติ หากร่างกายขาดฮอร์โมนชนิดใดชนิดหนึ่งก็จะเกิดโรคร้ายขึ้น เช่น ความผิดปกติเกี่ยวกับฮอร์โมนอินซูลิน ก็จะเป็นผลให้เกิดโรคเบาหวาน หรือ ความผิดปกติเกี่ยวกับฮอร์เอสโตรเจนในสตรี ก็จะเกิดอาการวัยทองและระบบประจำเดือน เป็นต้น จากการศึกษาวิจัย พบว่า สารอาหารหลายชนิดในน้ำมันจมูกข้าวรำข้าว ช่วยให้ร่างกายสามารถผลิตฮอร์โมนได้อย่างสม่ำเสมอและเกิดความสมดุล จึงทำให้ร่างกายแข็งแรงตลอดไป
7. ป้องกันโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศทั้งชายและหญิงอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เกิดขึ้นได้กับทั้งชายและหญิง ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของสังคม เพราะหากคู่สามีภรรยาอยู่ด้วยกันอย่างไม่มีความสุข หรือขาดความสมดุลทางเพศ ก็จะก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ มากมาย เช่น การหย่าร้าง การคบชู้สู่ชายหรือหญิง การประพฤติผิดต่อคู่ครอง การเที่ยวเตร่นอกบ้าน เป็นต้น สำหรับชายหญิงที่ได้รับสารอาหารต่างๆ ในน้ำมันจมูกข้าวรำข้าวเป็นประจำ จะทำให้ร่างกายมีความแข็งแรงสมบูรณ์อยู่เสมอ อีกทั้งสารเมลาโทนิน(Melatonin) ช่วยให้จิตใจผ่อนคลายด้วย ก็จะทำให้รอดพ้นจากโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ตลอดไป
8. บำรุงดวงตา สายตา ให้แจ่มใส ใช้งานได้ดีอยู่เสมอดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญ หากขาดการบำรุง ก็จะทำให้ดวงตาเกิดโรคต่างๆ ได้ เช่น น้ำเลี้ยงตาแห้ง ทำให้รู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่ดวงตา หรือ เป็นต้อชนิดต่างๆ เป็นต้น สารอาหารที่อยู่ในน้ำมันจมูกข้าวรำข้าว เช่น วิตามินเอ วิตามินบีคอมเพล็กซ์ เบต้าแคโรทีน ล้วนมีส่วนช่วยให้ดวงตาแจ่มใสและใช้งานได้ดีอยู่เสมอ
9. เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายในน้ำมันจมูกข้าวรำข้าว มีสารอาหารต่างๆ มากมาย ทั้งโปรตีน(จากพืช) ไขมันชนิดดีที่ร่างกายต้องการ(HDL) วิตามินต่างๆ ทั้งวิตามินเอ บีรวม อี ดี เค แร่ธาตุสำคัญๆ ที่ร่างกายต้องการก็มีอยู่ในน้ำมันจมูกข้าว เช่น แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส โปตัสเซี่ยม เซเลเนี่ยม โครเมี่ยม สังกะสี แมงกานีส นอกจากนั้น ยังมีเลซิติน ไลโซเลซิติน เซฟฟาลีน เบต้าแคโรทีน ซึ่งทั้งหลายทั้งปวง ล้วนทำให้สุขภาพแข็งแรง จึงทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานที่ดี ไม่เจ็บไม่ป่วย แม้ผู้ที่มีอาการป่วยแล้ว หากได้รับสารอาหารดังกล่าวอย่างเพียงพอและสมดุล ก็จะหายป่วยได้ ล่าสุด นายแพทย์บาร์รี่แห่งมหาวิทยาลัยไมอามี่ สหรัฐอเมริกา ได้ทำการวิจัยผู้ป่วยเอดส์ โดยให้ทานเซเลเนี่ยมเป็นประจำ ปรากฎว่า ได้ผลดี ทำให้ภูมิคุ้มกัน (CD4) เพิ่มมากขึ้น ขณะที่เชื้อ HIV ลดลง ดังนั้น ผู้ที่ร่างกายปกติควรรับประทานน้ำมันจมูกข้าว เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงตลอดไป ส่วนผู้ที่ป่วยแล้ว ก็ควรรับประทานน้ำมันจมูกข้าว เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหาร ซึ่งจะทำให้หายป่วยอย่างรวดเร็ว
10. หลับสนิท จิตใจเบิกบานยอมรับกันแล้วว่า การพักผ่อนด้วยการนอนหลับ คือ การพักผ่อนที่ดีที่สุด สารอาหารเมลาโทนิน ในน้ำมันจมูกข้าวรำข้าว จะทำให้นอนหลับสนิท หลับลึก ทำให้ร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ เมื่อตื่นก็สดชื่นเบิกบาน จิตใจก็แจ่มใส ไม่เครียด ทำให้การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างมีความสุข
ขำขำ
เด็กชายปิงปองขี่จักรยานคันใหม่มาอวดเพื่อนๆที่หน้าวัด พอดีเจอกับบราเดอร์ดุ่ยศักดิ์ บราเดอร์จึงเรียกเด็กชายปิงปองเขาไปสวดด้วยกันที่วัด “ไม่เอาหรอกครับ ผมกลัวจักรยานผมหาย” “ไม่เป็นไรหรอก เธอขอพระจิตเจ้าเฝ้าไว้สิ” บราเดอร์ดุ่ยศักดิ์เสนอ เด็กชายปิงปองจึงยอมไปสวดด้วยกันกับบราเดอร์ ขณะที่เริ่มสวดนั้นเองเขาก็ทำสำคัญมหากางเขน “เดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตร อาแมน” “อ้าวแล้วพระจิตหายไปใหนล่ะ?” บราเดอร์ดุ่ยศักดิ์ถาม เด็กชายปิงปองหันหน้ามาทำหน้างงงงแล้วถามกลับไปว่า “ก็พระจิตเฝ้าจักรยานให้ผมอยู่ข้างนอกไม่ใช่หรือครับ.........

เพื่อนแท้....
เพื่อนทั่วไปไม่เคยเห็นคุณร้องไห้
.......เพื่อนแท้มีหัวไหล่ไว้ซับน้ำตาคุณ
เพื่อนทั่วไปจะไม่รู้ชื่อพ่อแม่ของคุณ
.......เพื่อนแท้จะมีเบอร์ของคุณในสมุดจดโทรศัพท์ของเขา
เพื่อนทั่วไปจะถือขวดไวน์มางานปาร์ตี้ของคุณ
.......เพื่อนแท้จะมาแต่วันเพื่อช่วยเตรียมงานเ
พื่อนทั่วไปอยากคุยกับคุณถึงปัญหาของเขา
.......เพื่อนแท้อยากช่วยปัดเป่าปัญหาของคุณออกไป
เพื่อนทั่วไปจะพิศวงในเรื่องโรแมนติกเก่าๆ
......เพื่อนแท้สามารถเอาเรื่องนี้มาอำคุณได้
เพื่อนทั่วไปเวลามาเยี่ยมคุณทำตัวเยี่ยงแขก
.......เพื่อนแท้จะตรงรี่ไปเปิดตู้เย็นและบริการตนเอง
เพื่อนทั่วไปคิดว่ามิตรภาพจบลงเมื่อเกิดการทะเลาะถกเถียง
........เพื่อนแท้รู้ว่านั่นมิใช่มิตรภาพจนกว่าคุณได้เคยวิวาทกัน
เพื่อนทั่วไปคาดหวังให้คุ๕อยู่เคียงข้างเขาเสมอ.
.......เพื่อนแท้คาดหวังที่จะอยู่เคียงข้างคุณตลอดไป
เพื่อนทั่วไปจะอ่านข้อความนี้แล้วโยนลงถังขยะ.
.......เพื่อนแท้จะเฝ้าส่งต่อๆไปจนมั่นใจว่ามันได้ถึงมือผู้รับ....

สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต
ศัตรูที่หน้าสะพรึงกลัวที่สุดในชีวิตเรา คือ ตัวเราเอง
ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา คือ ความอวดดี
การกระทำที่โง่เขลาที่สุดในชีวิตเรา คือ การหลอกลวง
สิ่งที่แสนสาหัสที่สุดในชีวิตเรา คือ ความอิจฉาริษยา
ความผิดพลาดมหันต์ที่สุดในชีวิตเรา คือ การยอมแพ้ตนเอง
สิ่งที่เป็นอกุศลที่สุดในชีวิตของเรา คือ การหลอกตัวเอง
สิ่งที่หน้าสังเวชที่สุดในชีวิตเรา คือ การดูถูกตัวเอง
สิ่งที่น่าสรรเสริญที่สุดในชีวิตเรา คือ ความอุตสาหะวิริยะ
ความล้มละลายที่สุดในชีวิตเรา คือ ความสิ้นหวัง
ทรัพย์สมบัติที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตเรา คือ สุขภาพที่สมบูรณ์
หนี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา คือ หนี้บุญคุณ
ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา คือ การให้อภัยและความเมตตา
ข้อบกพร่องที่ใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตเรา คือการทำตามใจแบบไร้เหตุผล
สิ่งที่ทำให้อิ่มอกอิ่มใจมากที่สุด คือ การให้ทาน
มองในมุมต่างๆ
ความทุกข์ มีไว้เป็นแบบทดสอบความแข็งแกร่งของ
ชีวิตความเศร้า หนทางแสดงออกของความทุกข์
ความเหงา เป็นเพื่อนที่ดีสำหรับการเรียนรู้ตนเอง
ความสุข มิให้เก็บเกี่ยวได้เสมอตลอดเวลา ...แม้กระทั่งในเวลาแห่งทุกข์ความจริง
เป็นสิ่งที่คนใช้กันน้อย....และมักมองผ่าน
ความลวงสิ่งที่หน้าเกลียดที่สุด....แต่คนชอบใช้
ความรัก คือสิ่งที่ดีและสวยงามที่สุดในโลกมองไม่เห็นจับต้องไม่ได้แต่รู้สึกได้ด้วยหัวใจของขวัญจากพระ
เจ้า....

บัญชีธนาคารข้อกำหนดและเงื่อนไข
1.รับฝากเฉพาะความรัก และพระพรในบัญชีเท่านั้น
2.สิ่งที่ดีที่สุดคือ ท่านไม่ต้องเสียอะไรเลย
3.โปรดใช้บัญชีนี้อย่างเต็มที่4.อัตราดอกเบี้ยคำนวณจากเงินตะลันต์ที่ท่านได้รับ
5.หากท่านทำรหัสนี้หาย ท่านจะสูญเสียทุกสิ่งในวันนี้
6.โปรดฝากสิ่งที่ท่านได้รับในบัญชีของคนอื่นด้วย
7.ขอให้ปัญหาของท่านน้อยลง และได้รับพระพรมากขึ้น
8.ขออย่าให้สิ่งอื่นใดมากล้ำกลายประตูบ้านของท่านนอกจากความสุข

10 วิธี ที่จะไปได้ดีกับทุกคน
1.ก่อนจะพูดอะไรกับใคร จงถามตัวเองก่อนว่า:มันจริงไหม มีเมตตาไหม จำเป็นไหมไม่สัญญาพร่ำเพรื่อ แต่สัญญาแล้วถืออย่างซื่อสัตย์
2.อย่าพลาดโอกาสที่จะกล่าวชมหรือให้กำลังใจผู้อื่น
3.อย่าพูดถึงผู้อื่นในแง่ร้าย อย่านินทา และอย่าฟังการนินทา
4.จงพร้อมที่จะให้อภัย จงเชื่อว่าคนส่วนมากก็พยายามทำดีที่สุดเท่าที่สามารถแล้ว
5.จงเปิดใจกว้าง จงถกปัญหา แต่อย่าวิวาท
6.จงนับถึง 1,000 (ไม่ใช่แค่ 10) ก่อนที่จะพูดหรือทำอะไร ที่จะทำให้เรื่องมันเลวร้ายลง
7.ถ้าใครตำหนิท่าน จงดูว่าที่เขาพูดนั้นจริงไหม ถ้าจริงก็แก้ไขเสียถ้าไม่จริงก็แล้วไป และจงดำเนินชีวิตอย่างที่จะไม่ทำให้ใครเชื่อคำใส่ร้ายนั้น
8.จงมีอารมณ์ขัน การหัวเราะเป็นระยะทางที่สั้นที่สุดระหว่างสองคนอย่าแสวงหาความบรรเทา มากกว่าที่จะบรรเทาใจผู้อื่น
9.อย่าคอยให้คนอื่นเข้าใจเรามากกว่าที่จะเข้าใจผู้อื่น
10.อย่าคอยให้คนอื่นมารัก มากกว่าที่จะรักคนอื่น

วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2552

คุณค่าของมิสซา

ที่มา : นิตยสารแม่พระยุคใหม่ ฉบับที่ 167 ปีที่ 29 กันยายน – ตุลาคม 2009/2552
จงระลึกไว้เถิดว่า เมื่อท่านจวนจะสิ้นใจนั้นมิสซาทั้งหมดที่ท่านได้ร่วมอย่างศรัทธา จะปลอบใจท่านอย่างอเนกอนันต์
เมื่อท่านร่วมถวายมิสซาด้วยใจศรัทธา ท่านก็ถวายเกียรติสูงสุดแด่มนุษยภาพของพระเยซูเจ้า
ท่านอาจถวายให้วิญญาณในไฟชำระพ้นโทษได้ เพราะมิสซามีค่าสูงสุด
ท่านจะได้รับพร แม้สำหรับธุรกิจการงานในโลกนี้
พระองค์จะไม่สนพระทัยในความเลินเล่อมากมายของท่าน
พระองค์ทรงยกบาปท่าน แม้ที่ท่านไม่เคยสารภาพ แต่มีความทุกข์จริงใจแล้ว
แต่ละมิสซา เป็นการวอนขออภัยให้ท่าน จากพระยุติธรรมของพระเจ้า
แต่ละมิสซา ช่วยลดโทษบาปของท่าน มากหรือน้อยสุดแล้วแต่ความศรัทธาของท่านในการร่วมมิสซา
แต่ละมิสซา ช่วยผลักไสปีศาจออกห่างจากท่าน
แต่ละมิสซา ป้องกันท่านให้พ้นอันตรายนานา ที่อาจมาถึงตัวท่านโดยไม่รู้ตัว
แต่ละมิสซา ลดเวลาในไฟชำระให้สั้นลง
แต่ละมิสซา เพิ่มเกียรติมงคลที่ท่านจะรับในสวรรค์
แต่ละมิสซา ได้รับพรจากพระสงฆ์ ซึ่งมีองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้รับรอง
มิสซาเดียวที่ท่านได้ร่วมขณะยังมีชีวิตอยู่ จะช่วยท่านให้รอด มากกว่าอีกหลายมิสซา ที่คนอื่นจะถวายให้เมื่อท่านตายไปแล้ว
* “คริสตชนเอ๋ย จงรู้ไว้เถิดว่า ร่วมมิสซาหนึ่งครั้ง ท่านได้บุญกุศลมากกว่าแจกทรัพย์สมบัติแก่คนจน หรือจาริกแสวงบุญไปทั่วทุกแห่งในโลก” (นักบุญเบอร์นาร์ด)
* “พระเจ้าทรงโปรดทุกสิ่งให้เรา ตามที่วอนขอในมิสซา และยิ่งกว่านั้น พระองค์ยังประทานให้แม้สิ่งที่เราไม่คิดจะวอนขอ แต่จำเป็นแก่เราอีกด้วย” (นักบุญเยโรม)
* “ถ้าเราเข้าใจซึ้งถึงคุณค่าของมิสซาแล้วไซร้ เราคงจะร่วมถวายด้วยใจร้อนรนมากกว่านี้อีกหลายเท่านัก (นักบุญยอห์นมารีเวียนเนย์)
* นักบุญเทเรซา ถามพระเจ้าว่า “จะแสดงความขอบคุณพระองค์ได้อย่างไร” พระองค์ทรงตอบว่า “จงร่วมบูชามิสซา”

แนะนำตัว

ชื่อ นางสาว วรนิตย์ แก้วพวง
ชั้น ม.4/2 เลขที่ 30
วันเกิด 12/2/1994
ชอบกิน ข้าวผัดปู
ชอบสี ดำ
ชอบไปเที่ยวที่ สวนสัตว์
ผู้แนะนำ ครูวีระชน ไพสาทย์

สำหรับแม่น้อยกว่านี้ได้ยังไง

ค่าน้ำนม

วันเกิดเราเป็นดั่งวันสิ้นลมแม่
เจ็บปวดแท้ดั่งน้ำตาพาจะไหล
สองมือออบโอบอุ้มแกว่งเปล
น้ำนมเลี้ยงอุ้มชูให้เติบใหญ่มา
แม่เปรียบดั่งยารักษายามป่วยไข้
แม่เปรียบดั่งต้นไม้ใหญ่ร่มใบหนา
แม่เปรียบดั่งดวงตะวันส่องแสงมา
แม่เปรียบดั่งผ้าห่มหนาอบอุ่นกาย
เปรียบดั่งพระในบ้านชี้แนะลูก
สถิตย์ถูกอยู่กลางใจไม่ไปไหน
กตัญญูตอนนี้ยังไม่สายไป
ก่อนแม่ไซร้หลับตาไปไม่ลืมเอย

วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2552

งานคอม

1.คอมพิวเตอร์ทำงานกี่ส่วน มีอย่างไรบ้างตอบมาพอสังเขป
ตอบ มีการทำงาน 4 ส่วน 1.รับคำสั่ง 2.เก็บข้อมูล 3.ประเมินผล 4.แสดงผลลัพธ์ออกมาให้เห็นรับคำสั่งมี เมาท์ คีย์บอด โมเด็ม เก็บข้อมูล ฮาร์ดดิกส์ ฟลอปปิดิกส์ เทปไดรฟ์ ซีดีรอมประเมินผล CPU แสดงผล MONITOR INK JET

2. ส่วนประกอบในCPมีอะไรบ้าง
ตอบ CPU Memory Ram Rom BIOS Caching MainboardPower supply Hard disk OPerating system Chipset ระบบบัสและ Port เชื่อมต่อSoud card Graphic Card

3. วิธีการติดตั้ง Windows xp แบ่งออกได้กี่แบบ อะไรบ้าง
ตอบ 1.ติดตั้งแบบอัพเกรดจาก windows ตัวเดิมโดยใส่แผ่น cd และล็อกติดตั้งจาก CD นั้นได้เลย2.ติดตั้งโดยการบูตเครื่องใหม่จากCD ของWindows Xp setup และทำการติดตั้ง3.ติดตั้งจาก ฮาร์ดดิกส์ โดยการ Coppy ไฟล์ทั้งหมดจาก CD ไปเก็บไว้ในฮาร์ดดิสก์ก่อนทำการติดตั้ง

4. การติดตั้งระบบปฎิบัติการ Windows Xp สามารถทำได้กี่แบบมีอะไรบ้าง
ตอบ มี 2 แบบ1.การติดตั้งโดยการอัพเกรดจาก Windoes ตัวเดิม2.การติดตั้งแบบลงใหม่ทั้งหมด